เพลงเดี่ยว หมายถึงเพลงที่ใช้สำหรับ การบรรเลงเพื่ออวดฝีมือของนักดนตรีอวดทางและ วิธีการดำเนินทำนอง โดยในแต่ละเครื่องดนตรีจะมีเพลงเดี่ยวสำหรับเครื่องดนตรีนั้นเสมอโดยนำเอา เพลงที่คัดเลือกเฉพาะที่มีทำนองสามารถทำเป็นปรับปรุงทำเป็นทาง สำหรับเดี่ยว เพื่อใช้อวดฝีมือเช่น เพลงกราวในซึ่งเป็นเพลงที่ใช้บรรเลงประกอบการแสดงและประกอบพิธีกรรมนำมาปรับ ปรุงให้เป็นเพลงสำหรับเดี่ยวจึงมี 2 แบบ คือ กราวในทางธรรมดาสำหรับบรรเลงทั่วไปและก ราวในสำหรับเดี่ยวซึ่งเป็นเพลงที่ ต้องอาศัยฝีมือทางการบรรเลงนอกจากนั้นก็คัดเลือกมาจากเพลงร้องรับทั่วไปที่ มีทำนองพื้น ๆ ธรรมดา อย่างเพลงพญาโศก แขกมอญ สุดสงวนมาปรับปรุงให้เป็นทางสำหรับเดี่ยว
โดยส่วนใหญ่เพลงเดี่ยวมักจะเป็นเพลงในอัตรา 3 ชั้นมากกว่าเพราะมีทำนองยาวพอสามารถปรับปรุงเป็นเพลงเดี่ยวได้มากกว่าส่วนเพลง 2 ชั้น ที่นำมาใช้เดี่ยวส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่ใช้สำหรับการเรียนเบื้องต้นสำหรับผู้ ที่เริ่มเรียนเพลงเดี่ยว เป็นการเรียนเพื่อให้ฝึกจนชำนาญและจะเริ่มเรียนเพลงเดี่ยว 3 ชั้น ต่อไปเพลงเดี่ยวที่นิยมนำมาบรรเลงกันและมีทางเดี่ยวสำหรับทุกเครื่องดนตรี เช่น เพลงแขกมอญ เพลงพญาโศกเพลงนกขมิ้นเพลงลาวแพน เพลงกราวใน เป็นต้น
การฟังเพลงเดี่ยวนั้นต้องสังเกตว่านักดนตรีที่บรรเลงนั้นมีความแม่นยำทำนองและ ความคล่องแคล่วรวมถึงความคิดสร้างสรรค์ในการบรรเลง อย่างไรหากเป็นนักดนตรี ที่มีทักษะดีเลิศการบรรเลงเพลงเดี่ยวจะได้อรรถรสมากทั้งนี้เมื่อมีการคิดนำ เอาวง ดนตรีประเภทปี่พาทย์ระหว่างสำนักมาบรรเลงประชันกันตั้งแต่สมัยรัชกาล ที่ 5 เป็น ต้นมา ได้มีผู้แต่งทางเดี่ยวสำหรับอวดฝีมือกันมากขึ้น การเดี่ยวเวลาบรรเลงประชันแข่งขันกันนั้นนิยมเดี่ยวแบบรอบวงไล่ไปทีละ เครื่องดนตรีอย่างวงปี่พาทย์จะเริ่มเดี่ยวตั้งแต่ ปี่ใน ระนาดเอก ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก และระนาดทุ้มเพลงเดี่ยวถือเป็นเพลงที่มีความสำคัญสำหรับนักดนตรีไทยทุกคนหาก เป็นนักดนตรีไทยระดับอาชีพแล้วมักจะทำทางเดี่ยวสำหรับตนเองเอาไว้เพื่อเป็น เอกลักษณ์เฉพาะตนด้วย
เพลงเดี่ยว คือ เพลงที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรี จำพวกเครื่องดำเนินทำนองเพียงชิ้นใดชิ้นหนึ่งโดยเฉพาะ ได้แก่ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่ ฆ้องวงเล็ก จะเข้ ขิม ขลุ่ยต่างๆ ซอต่างๆ ปี่ต่างๆ และในการบรรเลงเดี่ยวนั้นก็จะมีเครื่องประกอบต่างๆ คือ ฉิ่ง ฉาบ กรับ กลองแขก กลองสองหน้า หรือโทนรำมะนาบรรเลงร่วมด้วยทุกครั้ง เพลงที่บรรเลงก็ได้แก่เพลงไทยทั้งหลายที่มีอยู่แ้ล้ว อาจจะเป็นเพลงเถา เพลงเกร็ด หรือเพลงหน้าพาทย์ก็ได้ สุดแต่ว่าครูดนตรีท่านใดจะนำเพลง อะไรมาแต่งเป็นทาง หรือเพลงเดี่ยวขึ้นใหม่ ซึ่งในการแต่งเพลงเดี่ยวสำหรับเครื่องดนตรีชิ้นใดก็ตาม ก็มักจะคำนึงถึงความเหมาะสมระหว่างทำนองเพลงกับเครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงด้วย กล่าวคือ ถ้าทำนองเพลงรวดเร็วเกรี้ยวกราดก็เหมาะกับระนาดเอก ทำนองเพลงโหยหวนชวนเศร้าก็เหมาะสำหรับปี่, ขลุ่ยหรือซอ ทำนองเพลงหวานซึ้งก็เหมาะสำหรับจะเข้ หรือขลุ่ย แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าจะต้องเป็นกฏเกณฑ์เช่นนี้เสมอไป เพราะปรากฏว่า ทำนองเพลงเดียวกันสามารถนำมาแต่งเป็นเพลงเดี่ยวสำหรับเครื่องดนตรีได้หลายชิ้น เป็นต้นว่า เพลงพญาโศก ใช้ปี่บรรเลงเดี่ยวได้ ซอก็ได้ ระนาดก็ได้ และฆ้องวงก็ได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากเรามีครูดนตรีไทยที่มีความสามารถมากมายหลายท่าน เมื่อครูท่านหนึ่งแต่งเพลงเดี่ยวสำหรับเครื่องดนตรีชิ้นหนึ่งไปแล้ว ครูท่านอื่นๆ ก็อาจจะแต่งเพลงเดี่ยวจากทำนองเพลงเดียวกันนั้นแต่ใช้สำหรับเครื่องดนตรีชิ้นอื่นขึ้นมาอีก
เกี่ยวกับเรื่องความเหมาะสมระหว่างทำนองเพลงกับเครื่องดนตรีที่ใช้ในการบรรเลงเดี่ยว ยกตัวอย่างเพลงพญาโศก ซึ่งทำนองเพลง ก็โศกเศร้าสมชื่อ ถ้าบรรเลงด้วยปี่หรือซอหรือขลุ่ยก็จะให้ความรู้สึกโศกเศร้าแก่ผู้ฟังได้ แต่ถ้าใช้บรรเลงด้วยระนาดเอก ก็จะไม่ให้ความรุ้สึกเช่นนั้นเลย ซ้ำอาจจะทำให้รู้สึกสนุกสนาน เร้าใจเสียมากกว่า หรือเพลงลาวแพน ตามปกติจะใช้จะเข้บรรเลงเดี่ยว ถ้าจะใช้เครื่องดนตรีอื่นก็ได้ แต่ก็คงจะไม่ไพเราะเท่า จะเข้
ในการบรรเลงเพลงเดี่ยว จะบรรเลงตลอดทั้งเพลงหรือบรรเลงแทรกอยู่ในตอนใดตอนหนึ่งของเพลงก็ได้ การบรรเลงเดี่ยวมีความมุ่งหมายอยู่ ๒ ประการคือ
๑. เพื่อแสดงถึงความสามารถ และฝีมือของผู้บรรเลง สามารถจดจำบทเพลง ต่างๆ และบรรเลงได้แม่นยำไม่ผิดพลาด
๒. เพื่อเป็นการอวดทาง คือ ทำนองเพลงว่าดี คม ไพเราะ เหมาะสมขนาดไหน
เนื่องจากเพลงเดี่ยวเป็นเพลงสำหรับผู้บรรเลงคนเดียว ดังนั้น ผู้บรรเลงจะต้องมีความแม่นยำในทำนองเพลง จะผิดพลาด ไม่ได้ และจะต้องฝึกซ้อมมาเป็นเวลานานอย่างดีก่อน ที่จะบรรเลงทุกครั้ง เมื่อใดก็ตามที่เราได้มีโอกาสพบเห็น หรือได้ฟังการบรรเลงเดี่ยวก็ขอให้รู้เถิดว่านั่นแหละ ฝีมือชั้นครูจริงๆ เพ ลงเดี่ยว หมายถึงการบรรเลงเป็นทางเพลงเดี่ยว หากบรรเลงคนเดียวแต่เล่นในทำนองทางปกติ แบบนั้นไม่ใช่เพลงเดี่ยว แต่เป็นการ “บรรเลงคนเดียว”