เทพแห่งดุริยางค์ดนตรี
ในวงการดนตรีไทยนั้น ถ้าหากผู้ใดจะเริ่มเรียนย่อมจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องสำคัญที่จะต้องทราบและให้ความสำคัญในเรื่องของการไหว้ครู ดังนั้นการไหว้ครูจึงเป็นการไหว้เทพแห่งดุริยางค์ ในบทโองการพิธีไหว้ครู ที่ท่านผู้เป็นประธานกล่าวนำในพิธีนั้น ปรากฏชื่อเทพเจ้าอยู่ 3 องค์ คือ
1 พระวิศวกรรม หรือพระวิษณุกรรม
2 พระปรคนธรรพ หรือ พระประโคนธรรพ
3 พระปัญจสีขร
พระวิศวกรรม พระปรคนธรรพ พระปัญจสีขร
พระวิศวกรรม หรือ พระวิษณุกรรมนั้น ในโองการกล่าวไว้ว่า “พระวิษณุกรรมผู้เรืองฤทธิ์ ท่านประสิทธิ์สาปสรรค์ เครื่องเล่นสิ่งสารพันในใต้หล้า” ซึ่งทำให้เข้าใจว่า พระวิศวกรรม ท่านเป็นนายช่าง เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะการช่าง การสร้างสรรค์เครื่องดนตรีอันไพเราะได้นั้น ย่อมเกิดจากอำนาจแห่งพระวิศวกรรมเป็นผู้บันดาลให้ถูกต้องตามลักษณะแห่งเครื่องดนตรี
พระปรคนธรรพ หรือ พระประโคนธรรพ นามจริงของท่าน คือ พระนารทมุนี เป็นพรหมฤาษี เป็นประชาบดีตนหนึ่งในทศฤาษี หรือมหาฤาษีทั้ง 10 ท่าน เป็นผู้ชำนาญในการขับร้องและ ดุริยางค์ดนตรี เป็นผู้ที่คิดทำพิณขึ้นเป็นอันแรก จึงได้นามว่าปรคนธรรพ ซึ่งแปลว่ายอดของคนธรรพ ดังนั้นพระนารทมุนี จึงนับเป็นเทพแห่งดุริยางค์ดนตรีองค์หนึ่ง มีนามว่า พระปรคนธรรพ
ประปัญจสีขร เป็นเทพบุตรในชั้นจาตุมหาราชชื่อว่า สิขคนธรรพเทพบุตร มี 5 ยอด ร่างกายเป็นสีทอง มีกุณฑลอาภรณ์ประกอบด้วยนิลรัตน์ และทรงภูษาสีแดง มีความสามารถเชิงดีดพิณ และขับลำนำ “พิณของพระปัญจสีขรนี้ มีสีพรรณเหลื่อมเหลือง ดุจผลมะตูมสุก สะอาด ตะพองพิฯนั้นแล้วด้วยทองธรรมดา คันนั้นแล้วด้วยแก้วอินทนิลมณี มีสาย 50 สาย แล้วด้วยเงินงาม เวทกะ(ลูกบิด) ที่สอดสายเสียบอยู่ปลายคันนั้นแล้วด้วยพระกาฬ”
ดังนั้นจึงนับได้ว่าเทพเจ้าทั้ง 3 องค์เป็นเทพแห่งดุริยางค์ดนตรี
พระปรคนธรรพ
พระปรคนธรรพ (นารทฤาษี)
พระปรคนธรรพ (นารที)
พระปรคนธรรพ (พระกะปิพักตรหน้าลิง)
พระปรคนธรรพ (พระนารท)
นุ่งหนังหมี ห่มหนังเสือ
พระปรคนธรรพ
พระปรคนธรรพ
พระปรคนธรรพ (พระนารที)
พระปรคนธรรพ (หน้าลิง)
พระปรคนธรรพ (หน้านก)